Archive for พฤษภาคม 2015

ฝรั่งถามทาง เราจะตอบอย่างไร


1.ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับประโยคที่มักจะได้ยินเวลาชาวต่างชาติมาถามทาง หรือถ้าเราไปต่างประเทศแล้วต้องการที่จะถามทางก็ต้องใช้ประโยคเหล่านี้ได้เลย ขึ้นต้นประโยคอย่างสุภาพว่า “Excuse me…”


-Excuse me. Could you tell me. How to get to the Siam Paragon, please ?
ขอโทษครับ/ค่ะ กรุณาบอกฉันหน่อยได้ไหม ไปสยามพารากอนอย่างไร

-Excuse me . Could you tell me. The way to Siam Paragon, please
ขอโทษครับ/ค่ะ กรุณาบอกทางไปสยามพารากอนหน่อยได้ไหม ครับ/ค่ะ

-Excuse me. Could you give me direction to the Siam Paragon, please
ขอโทษครับ/ค่ะ ช่วยกรุณาบอกฉันหน่อยทางไปสยามพารากอนไปทางไหน

-Excuse me. Could you tell me . Where’s the Siam Paragon, please?
ขอโทษครับ/ค่ะ กรุณาบอกฉันหน่อยสยามพารากอนไปทางไหน

-Could you tell me where I am?
ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมค่ะว่า ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน?

2.เมื่อรู้ถึงจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติแล้วว่าจะไปที่ไหน ก็อย่าเพิ่งวิ่งหนีใจดีสู้เสือเอาไว้ ตั้งสติแล้วคิดถึงสถานที่ที่เขาต้องการจะไป ตอนนี้คำตอบก็จะมีอยู่สองทางคือ “รู้” กับ “ไม่รู้” ถ้ารู้ทางแต่ไม่รู้คำศัพท์ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นเรามาเริ่มรู้จักคำศัพท์ในการบอกทางกันเลย…

คำศัพท์บอกทิศทาง

ตรงไปข้างหน้า = Go straight on.
เดินผ่าน = walk past…(ชื่อสถานที่) หรือ go past…(ชื่อสถานที่)
เลี้ยวซ้าย = turn left
เลี้ยวขวา = turn right
ทางซ้าย = on the left
ทางขวา = on the right
ข้ามถนน = cross the road


คำศัพท์บอกเส้นทาง

สามแยก = junction
สี่แยก = intersection / crossroads
หัวมุมถนน = corner
ตรอก, ซอย = lane
ถนนใหญ่ = road
สุดถนน = at the end of the road
ทางรถไฟ = railroad/ railway


คำศัพท์สิ่งก่อสร้างเกี่ยวกับการเดินทาง

ทางเท้า = footpath/ sidewalk/ pavement
ทางม้าลาย = crosswalk/ zebra crossing
สัญญาณไฟจราจร = traffic light
ป้ายรถประจำทาง = bus stop
สะพาน = bridge
สะพานลอยคนข้าม = overcrossing/ footbridge
ท่าเรือ = pier (เพียร์) เช่น ท่าเรือพระอาทิตย์ (Phra Arthit Pier)
สนามบิน = airport
ป้ายรถเมล์ = bus stop


คำศัพท์เกี่ยวกับการขนส่งมวลชน

รถประจำทาง = bus
รถแท็กซี่ = taxi
เรือด่วน = express boat
เรือข้ามฟาก = ferry boat
รถไฟ = train
รถไฟใต้ดิน = subway/ underground
รถไฟลอยฟ้า = sky train
เครื่องบิน = airplane


บอกเส้นทางที่ไม่ใช่ทางเดินเท้า

ขึ้นรถ = take / catch / get on
ลงรถ = get off
หมายเลขรถ = bus number..... / a number..... bus


ตัวอย่างเช่น

-Take bus number 124. It will take you pass Central Pinklao. And then you get off at…
ขึ้นรถประจำทางสาย 124. มันจะพาคุณผ่านเซ็นทรัลปิ่นเกล้า. คุณต้องลงรถที่…


-You can take a taxi. It will take you there in 15 minutes.
คุณสามารถขึ้นรถแท็กซี่ไปได้ ประมาณ 15 นาที ก็จะถึงจุดหมาย.


3.เมื่อรู้คำศัพท์แล้วหลายคนอาจนำมาประกอบเป็นรูปประโยคบอกเส้นทางได้อย่างสวยงามยาวๆ แต่สำหรับคนที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง เอาเป็นว่าแค่บอกเป็นวลี หรือประโยคสั้นๆ คิดว่าฝรั่งก็คงจะเข้าใจได้ ดังนั้นเรามาเรียนรู้วลีหรือประโยคง่ายๆ สำหรับบอกทางกัน

ทางนี้/ ทางนั้น (ชี้นิ้ว) = It’s this way./ It’s that way.
เดินไปทางนั้นเลย (ชี้นิ้ว) = You have to go that way.
ไปตามถนนนี้ = take this road.
เดินตรงไปเรื่อยๆ = Walk along the road./ Walk straight on/ Go straight on. /Keep going straight. /Just go straight on.


แยกแรกให้เลี้ยวซ้าย = take the first on the left.
แยกสองให้เลี้ยวขวา = take the second on the right.
ถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวา = turn right at the crossroads.
ลอดใต้สะพาน = go under the bridge.
ข้ามสะพาน = go over the bridge.


ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตร. = Continue straight ahead for 500 meters.
เดินไปประมาณ 10 นาที = Walk for about 10 minutes
เดินข้ามสี่แยกไปยังถนนพระอาทิตย์ = Go through the intersection to Phra Athit Road.
คุณกำลังไปผิดทาง = You’re going to the wrong way.
มันไกลมากถ้าจะเดินไป เรียกแท็กซี่จะดีกว่า. = It’s too far to walk. You should take a cab.


4.แต่ถ้าเราไม่รู้ทางจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็อย่ามึนๆ แล้วก็ชิ่งหนีไป ด้วยประโยคว่า “I don’t know” เสียหน้าเจ้าบ้านสยามเมืองยิ้มหมด ดังนั้นเราควรแสดงออกให้เขารู้หน่อยว่า ถึงเราไม่รู้แต่ก็จะพยายามช่วยเต็มที่ด้วยประโยคที่ดีกว่า “I don’t know” ดังนี้

-I don’t know the way. But I’ll try to help you.
ไม่รู้เหมือนกัน แต่จะลองช่วยดูครับ/ค่ะ


-Just a moment. Let me ask someone who knows.
รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวไปถามผู้รู้ให้.


ขอบคุณ : Manager


Free Downloads APP

Popular Post

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

- Copyright © Sample-English -Metrominimalist- Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan -